หมู่บ้านฮาลล์สตัทท์ (Hallstatt) ประเทศออสเตรีย


OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

อ้อมจะพาทุกคนไปเที่ยวหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ปลายทางระหว่างทะเลสาบฮาลล์สตัทท์และเทือกเขาแอลป์ที่สูงตระหง่านเป็นฉากหลัง หมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุดและถูกถ่ายภาพมากที่สุดในโซนทะเลสาบพื้นที่ Salzkammergut ประเทศออสเตรีย

การเดินทางมาฮาลล์สตัทท์

จากซาลล์บรูก(From Salzburg) ระยะทางจากซาลล์บรูก: 2 ชั่วโมง 15 นาทีโดยรถบัส, 2.5 ชั่วโมงโดยรถไฟบวกกับนั่งเรือข้ามฟากสั้น และเพียง 1 ชั่วโมงและ 15 นาทีโดยรถยนต์

จากเวียนนา (From Vienna) ระยะทางจากเวียนนา: 4 ชั่วโมงโดยรถไฟ, ประมาณสามชั่วโมงกว่าๆ โดยรถยนต์จากกรุงเวียนนา

ตารางรถไฟ: OBB (ที่นี่)

การเดินทางไปฮาลล์สตัทท์ จากซาลล์บรวก มิวนิคหรือเวียนนาอาจจะดูเหมือนยากในแว๊บแรก แต่อ้อมบอกเลยว่าไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ

ในกรณีที่เราไม่ได้เช่ารถขับเองในการเดินทางไปฮาลล์สตัทท์ และหากเราต้องเดินทางจากเวียนนาอ้อมแนะนำให้นั่งรถไฟค่ะ แต่ถ้าเราเดินทางจากซาลล์บรูกโดยรถบัสก็จะเร็วกว่าการเดินทางด้วยรถไฟนิดหน่อย และรถจะจอดที่เมืองฮาลล์สตัทท์เลย แต่การเดินทางจากซาลล์บรูกโดยรถไฟจากซาลล์บรวกก็ไม่ยากนะคะ เพียงแต่ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางเพิ่มโดยการนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามทะเลสาบจากสถานีรถไฟฮาลล์สตัทท์ (ชื่อสถานีฮาลล์สตัทท์ก็จริงค่ะ แต่สถานีตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามทะเลสาบกับเมืองฮาลล์สตัทท์อีกทีค่ะ)

อ้อมได้แบ่งปันข้อมูลการเดินทางมาหลายวิธี เพื่อช่วยให้ทุกคนได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางไปยังหมู่บ้านที่แสนสวยแห่งนี้แบบที่ไม่ต้องลำบากและให้เหมาะสมกับการเดินทางไปยังเมืองฮาลล์สตัทท์ของทุกคนค่ะ

รถไฟ

Hallstatt_train_station_01WebsitePicture-hallstatt-hallstaetter-seeschifffahrt-c-kraft-108P9250597.JPG

เดินทางไปฮาลล์สตัทท์ด้วยรถไฟง่ายมากค่ะ ไม่ว่าเราจะเดินทางจากซาลล์บรูกหรือเวียนนา เราต้องไปเปลี่ยนรถไฟที่สถานีเดียวกันคือสถานี Attnang-Puchheim (จากสถานี Salzburg Hbf ใช้เวลาประมาณ 46 นาที, จากสถานี Westbahnhof เวียนนาใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) เพื่อเปลี่ยนไปขึ้นขบวน RegionalExpress ต่อไปยังเมืองฮาลลสตัทท์ อีกประมาณ 1 ชม. ครึ่ง เมื่อถึงสถานีรถไฟฮาลล์สตัทท์ (Hallstatt) ให้นั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากมาเมืองฮาลล์สตัทท์ค่ะ (เรือข้ามฝากราคาคนละ 4 ยูโร)

สรุปเส้นทาง:

1. Salzburg หรือ Vienna > Attnang-Puchheim:

ระยะเวลาในการเดินทางด้วยรถไฟ

จากซาลล์บรูก สถานี Salzburg Hbf มาเมือง Attnang-Puchheim ใช้เวลาประมาณ 50 นาที

จากเวียนนา สถานี Westbahnhof มาถึงเมือง Attnang-Puchheim จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

เวลาระหว่างรอการเปลี่ยนรถไฟประมาณ 10-30 นาที

2. Attnang-Puchheim> Bad Ischl> Hallstatt Bahnhof:

เดินทางต่อโดยรถไฟท้องถิ่นจากสถานี Attnang-Puchheim ไปยัง Bahnhof Hallstatt จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 90 นาที โดยสถานี Bahnhof Hallstatt จะอยู่ฝั่งตรงข้ามทะเลสาบจากตัวเมืองฮาลล์สตัทท์ จากนั้นนั่งเรือข้ามฟากเพื่อไปยังเมืองฮาลล์สตัทท์

แต่หากคุณพักที่เมืองโอเบอร์ทรอน Obertraun ให้นั่งรถไฟต่อไปอีกหนึ่งสถานี หรืออีกประมาณ 5 นาที เพื่อไปลงที่สถานีโอเบอร์ทรอน Obertraun หรือถ้าคุณจะไปเที่ยวชมถ้ำน้ำแข็งและ five fingers ให้นั่งรถบัสสาย 542 จากสถานี Obertraun ลงที่สถานี Obertraun Dachsteinseilbahn และหากจะเดินทางจากสถานี Obertraun ไปฮาลล์สตัทท์โดยรถบัสให้นั่งไปลงที่สถานี Hallstatt Lahn เช็คตารางเดินรถบัส

ราคาตั๋วรถไฟและตารางเวลารถ: สำหรับข้อมูลตารางรถไฟเช็คได้จาก เว็บไซต์รถไฟเยอรมัน หรือเว็บไซต์รถไฟออสเตรีย ราคาจะขึ้นอยู่กับบริษัทรถไฟที่คุณเลือกค่ะ เช็คราคาได้จากเว็บไซต์รถไฟได้เองเลยค่ะ

การเดินทางโดยรถบัสแล้วต่อรถไฟจากซาลล์บรวก

การเดินทางด้วยรถบัสแล้วต่อรถไฟจาก Salzburg ไป Hallstatt จะเร็วกว่าการเดินทางด้วยรถไฟอย่างเดียวประมาณ 20 นาที แต่ก็ต้องเปลี่ยนรถถึง 3 ครั้งค่ะ

วิธีการก็คือต้องขึ้นรถบัสสาย 150 จากสถานี Salzburg ไปลงที่สถานี Bad Ischl และจากที่นี่ ให้เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางต่อไปยังเมือง Hallstatt โดยเส้นทางนี้จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม. 40 นาที

ถ้าให้อ้อมแนะนำ อ้อมว่าการเดินทางด้วยรถไฟน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในการเดินทางไปฮาลล์สตัทท์ (Hallstatt) ค่ะ

หมายเหตุ: ที่สถานีรถไฟและสถานีรถบัสฮาลล์สตัทท์ไม่มีที่ฝากกระเป๋านะคะ

Things to do

1. เดินเล่นในหมู่บ้านแสนสวยฮาลล์สตัทท์: PA240718.JPGตั้งแต่เราก้าวเท้าเข้าสู่หมู่บ้านฮาลล์สตัทท์ คุณจะตกหลุมรักหมู่บ้านนี้เหมือนรักแรกพบ ทุกย่างก้าวที่เราเดินไปจะมีทั้งบ้านไม้อัลไพน์น่ารักแบบดั้งเดิม วิวทะเลสาบและภูเขาที่งดงาม แถมด้วยบรรดาหงส์ที่สง่างามพากันมาว่ายน้ำโชว์นักท่องเที่ยวอีกด้วย เรียกได้ว่าเหมือนกับเราได้เดินเข้าไปในหมู่บ้านเทพนิยายจากนิทานอัลไพน์หยั่งไงหยั่งงั้นเลยค่ะ และถึงแม้ถนนหลักของเมืองจากหน้าหมู่บ้านจนถึงสุดหมู่บ้านจะมีเพียงเส้นเดียว เป็นทางเลียบทะเลสาบและมีระยะทางเพียง 1 กิโลเมตรกว่าๆ เท่านั้น แต่ก็ทำให้เรารู้สึกว่าไม่อยากให้มันมีจุดสิ้นสุดเลย ถ้าทุกคนมีโอกาสได้มาเยี่ยมเยือนหมู่บ้านอันแสนน่ารักแห่งนี้ อ้อมแนะนำให้คุณใช้เวลาและซึมซับบรรยากาศและความสวยงามของฮาลล์สตัทท์ให้มากที่สุด อ้อมรับรองค่ะว่าทุกคนต้องประทับใจและมีความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเราเคยได้มาสัมผัสหมู่บ้านน่ารักแห่งนี้ค่ะ

2. ขับเรือไฟฟ้าในทะเลสาบฮาลล์สตัทท์:OLYMPUS DIGITAL CAMERA ขับเรือในทะเลสาบอันสวยงามที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาแอลป์ เป็นกิจกรรมแนะนำที่ไม่อยากให้ใครที่ได้มีโอกาสมาเที่ยวในช่วง เม.ย.-ก.ย. พลาดเลยค่ะ เค้าเปิดบริการให้เช่าเรือเฉพาะช่วงฤดูร้อนและเฉพาะวันที่อากาศดีเท่านั้น เวลาเช่าขั้นต่ำ 30 นาที ลำนึงนั่งได้ 4 คน ส่วนราคาเค้าคิดค่าบริการเหมาลำค่ะ

เรือไฟฟ้า 300 วัทต์: 30 นาที 10 ยูโร, 1 ชม. 15 ยูโร
เรือไฟฟ้า 500 วัทต์: 30 นาที 13 ยูโร,  1 ชม. 18 ยูโร
ไปขับเรือผ่อนคลาย แล้วยังได้เห็นหมู่บ้านฮาลล์สตัทท์ในมุมมองที่ไม่เหมือนใครอีกต่างหาก

 3. ทานปลาทะเลสาบ (Try Lake Fish): 10750059_10152437348787344_5789978622627220501_o.jpgฮาลล์สตัทท์เป็น 1 ในหมู่บ้านในภูมิภาคของเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบ เพราะฉะนั้นแน่นอนว่า อาหารขึ้นชื่อก็ไม่พ้นหลากหลายเมนูปลาสดๆ จากทะเลสาบค่ะ ในทะเลสาบฮาลล์สตัทท์มีปลาที่มีชื่อเสียงชื่อเรียกยากว่า “ไรอันเก้ (Reinanke)” หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า White Fish และถ้าได้ทานคู่กับไวน์ขาวท้องถิ่นของออสเตรียแล้วล่ะก็ รับรองว่ามันช่างเข้ากั๊น..เข้ากันจริงๆ ค่ะ แต่ที่นี่ก็ไม่ได้มีแค่ปลาไรอันเก้เท่านั้นนะคะ ยังมีทั้งปลาชาร์ (Char) แซลมอนเทร้าท์ (Salmon Trout) และที่อ้อมชอบมากที่สุดคือปลาเทร้า (Trout) ค่ะ แต่เนื่องจากอย่างที่เราทราบกันดีว่าปลาน้ำจืดจะก้างเยอะ ยังไงระวังก้างเวลาทานกันด้วยนะคะ

4. หอคอยรูดอร์ฟ&สกายวอร์ค (Rudolph’s Tower & Skywalk): FullSizeRender.jpgเป็นจุดชมวิวบนภูเขาเกลือ (Salzberg) ที่เราจะสามารถมองเห็นหมู่บ้านฮาลล์สตัทท์จากมุมสูงที่ 1,200 ฟุต  โดยหอคอยรูดอร์ฟนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1282 โดยดยุค Albrecht ที่ 1 แห่งออสเตรียเพื่อใช้เป็นหอคอยสังเกตการณ์ในการป้องกันเหมืองเกลือและได้ตั้งชื่อหอคอยว่า “รูดอล์ฟ” ตามชื่อพ่อของเขา (Afder Rudorf ที่ 1) และต่อมาที่หอคอยรูดอร์ฟนี้ยังใช้เป็นที่อาศัยของผู้จัดการเหมืองเกลือมาหลายรุ่นยาวนานนับหลายศตวรรษ ในปี ค.ศ. 1960 ที่หอนี้ได้เปิดเป็นร้านอาหารที่มีอาหารท้องถิ่นหลากหลายเมนู หรือจะจิบกาแฟกับทานเค้กแบบโฮมเมดเพลินๆ ชมวิวไปด้วยก็มีความสุขไปอีกแบบนะคะ

จุดชมวิว Skywalk เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวสำหรับคนที่ชอบความตื่นเต้นและชอบวิวพาโนรามาของเทือกเขาอัลไพน์ในภูมิภาค Dachstein Salzkammergut จุดชมวิวที่ยื่นจากหน้าผาสูง 1,148 ฟุต ทำให้เหมือนกับว่าเราเดินบนอากาศเหนือหลังคาหมู่บ้านมรดกโลกฮาลล์สตัทท์ เป็นมุมที่ตื่นเต้นไปอีกแบบค่ะ

การเดินทาง: การเดินทางขึ้นมาบนหอคอยรูดอร์ฟ&สกายวอร์ค สามารถนั่งรถรางขึ้นเขาค่ะ ซึ่งเราสามารถซื้อตั๋วแยกเฉพาะค่ารถไป-กลับขึ้นมาชมวิว หรือขึ้นมาร้านอาหารอย่างเดียว หรือซื้อตั๋วรวมค่ารถไป-กลับ+เหมืองเกลือค่ะ (วัน-เวลาทำการและราคาตั๋ว) หรือเดิน treking ประมาณ 1 ชม. ขึ้นตามเส้นทางเดินขึ้นเขาก็ได้เช่นกันค่ะ

5. เหมืองเกลือฮาลล์สตัทท์ Hallstatt Salt Mine (Salzwelten): IMG_8185.JPGเหมืองเกลือที่เก่าแก่ที่สุดในโลกแห่งนี้มีอายุมากกว่า 7,000 ปี เรียกได้ว่ามีมาตั้งแต่สมัยยุคก่อนคริสตกาลเลยค่ะ ในเมืองหนาวที่อาณาเขตไม่มีทางออกติดทะเล เกลือถือว่าเป็นของมีค่ามาก โดยที่นี่จะมีคำเรียกเกลือว่า “White Gold” หรือทองคำขาว และเหตุผลที่เกลือมีค่ามากในสมัยก่อนก็เนื่องจากคนโบราณเค้าใช้เกลือในการถนอมอาหารไว้ทาน เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่รอดได้ในช่วงฤดูหนาวที่สัตว์และต้นไม้ใบหญ้าต่างพากันจำศีลซึ่งกินเวลาหลายเดือน เช่น แฮม เบคอน เป็นต้น เราอาจเคยได้ยินว่ามีเพียงไม่กี่แห่งในโลกนี้ที่มีหลักฐานของมนุษย์ในช่วงยุคเหล็ก ที่ฮาลล์สตัทท์มีหลักฐานจากการขุดค้นพบโครงกระดูก ข้าวของเครื่องใช้ และเครื่องไม้เครื่องมือและในการเริ่มทำเหมือง จนหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาแห่งนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในชื่อที่ตั้งตามยุคที่รุ่งเรืองที่สุดในช่วงยุคเหล็กว่า “Hallstatt Era” ยุคฮาลล์สตัทท์ (800-400 ปีก่อนคริสตกาล)

ทัวร์เหมืองเกลือฮาลล์สตัทท์เป็นกิจกรรมสนุกๆ สำหรับผู้ชมทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เข้าไปก็เจอความตื่นเต้นของสไลด์ไม้กระดานโบราณของคนงานเหมือง ซึ่งเป็นสไลด์และบันไดไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และการเดินทางโดยรถไฟที่ใช้ในการเข้า-ออกถ้ำเกลือของคนงานเหมือง เรายังจะได้เห็นทะเลสาบใต้ดินที่บอกเล่าเรื่องราวของการเกิดเกลือบนเขานี้แบบเข้าใจง่ายโดยใช้ แสง สี เสียง เรียกได้ว่าหลังหนึ่งชั่วโมงของการทัวร์เหมืองเกลือ เราได้รับทั้งความรู้ทางภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ของเหมืองเกลือและภูมิภาคนี้ และยังได้เห็นชีวิตประจำวันของชาวเหมืองในสมัยก่อนอีกด้วยค่ะ ถ้ามีแผนจะมาเที่ยวเหมืองเกลือ ขอให้เผื่อเวลาขึ้นรถราง ถ่ายรูปวิว เดินไป-กลับเหมืองและทัวร์เหมืองซึ่งจะใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 3 ชม. ค่ะ

การเดินทาง: นั่งรถรางขึ้นเขาจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตรงทางขึ้นเขาเกลือ จากนั้นเดินต่อไปตามทางเดินป่าอีกประมาณ 15-20 นาที  โดยเราสามารถซื้อตั๋วแยกเฉพาะค่ารถไป-กลับขึ้นมาชมวิว หรือขึ้นมาร้านอาหารอย่างเดียว หรือซื้อตั๋วรวมค่ารถไป-กลับ+เหมืองเกลือค่ะ (วัน-เวลาทำการและราคาตั๋ว)

หมายเหตุ: เหมืองเกลือจะปิดในช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่ประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงต้นเดือนเมษายนค่ะ

Where to eat

ร้านอาหารแนะนำ:

  1. ร้าน Seewirt ร้านเก่าแก่และขึ้นชื่อเรื่องเมนูปลา แต่ก็มีเมนูอาหารพื้นเมืองอื่นๆ ด้วยนะคะ / ที่ตั้ง: Marktplatz 51, 4830 Hallstatt
  2. ร้าน Lake side hotel Grüner Baum ร้านริมทะเลสาบบรรยากาศดีมีเมนูปลาสดๆ จากทะเลสาบ แล้วยังมีอาหารพื้นเมืองและอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนด้วยค่ะ / ที่ตั้ง: Marktplatz 104, 4830 Hallstatt
  3. ร้าน Braugasthof Inn ร้านตกแต่งน่ารัก และเปิดพื้นที่ริมทะเลสาบแบบ Outdoor ในวันอากาศดี แน่นอนว่ามีเมนูปลาสดจากทะเลสาบและอาหารพื้นเมือง แต่ถ้าใครชอบทานเป็ด อ้อมแนะนำเมนูเป็ดซอสส้มค่ะ / ที่ตั้ง: Verena Lobisser, Seestraße 120, 4830 Hallstat

เดินทางจากสนามบินเวียนนาเข้าเมือง


สนามบินนานาชาติเวียนนา Schwechat ตั้งอยู่ทางตะวันออกของกรุงเวียนนา และอยู่ห่างประมาณ 16 กิโลเมตร การเดินทางจากสนามบินไปยังกลางเมืองเวียนสามารถ เดินทางได้ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายโดยการขนส่งสาธารณะหลากหลายแบบ

เข้าเมืองเวียนนาด้วยรถไฟด่วน City Airport Train (CAT)

CAT_Wien_Mitte

City Airport Train (CAT) คือรถไฟสนามบินที่เชื่อมระหว่างสถานีรถไฟสนามบินกับสถานีรถไฟ Wien Mitte สถานีศูนย์กลางการขนส่งของกรุงเวียนนา แบบสายตรงที่ไม่มีการจอดหยุดตามสถานีต่างๆ เหมือนรถไฟทั่วไป และใช้เวลาเดินทางเพียง 16 นาทีเท่านั้น

สถานีอยู่ในอาคารสนามบินตรงสุดทางของ Terminal 3 (ตามสัญลักษณ์ CAT จะเจอค่ะ)

airport-map

ที่นั่งในรถไฟนั่งสบายมีจุดวางกระเป๋าเดินทางด้วยค่ะ

ขากลับจากเวียนนาไปยังสนามบินโดย CAT สะดวกมากๆ เพราะเราสามารถเช็คอินกระเป๋าที่จะโหลดใต้เครื่องพร้อม Check in รับ Boarding pass ที่เคาท์เตอร์สถานี CAT ใน Wien Mitte ก่อนขึ้นรถไฟได้เลย (ยกเว้น สายการบิน Air France และ Germanwings) เป็นเคาท์เตอร์แบบเดียวกับเคาท์เตอร์ที่ Check in ที่สนามบินเลยค่ะ เราจึงไม่ต้องไปต่อคิว Check in หรือโหลดกระเป๋าที่สนามบินอีกค่ะ เรียกว่าขึ้นรถไฟ CAT ไปพร้อมตั๋วรถไฟ, Boarding Pass, ตัวเราและกระเป๋าขึ้นเครื่องเท่านั้น (เริ่มฝากได้ตั้งแต่ 24 ชม. ก่อนเวลาบิน แต่ไม่น้อยกว่า 75 นาทีก่อนเวลาบิน เวลาเคาท์เตอร์ทำการระหว่าง 5.00-21.00 น.)

หมายเหตุ: ถ้ามีของขอคืนภาษีในกระเป๋าที่โหลดลงเครื่อง ต้องไปโหลดที่สนามบินนะคะ เพราะต้องไปตรวจของเพื่อขอสแตมป์ในใบ Tax Refund ก่อนค่ะ

ขากลับ ด้านในสถานี Wien Mitte จะเป็นช้อปปิ้งมอลล์ ให้หาสัญลักษณ์ CAT จะเจอทางเข้า
CAT-WienMitte-Landstrasse-e1407945966184

พอเข้าไปก็จะเจอเคาท์เตอร์ Check in และโหลดกระเป๋า
CAT-Cityairporttrain-Wien-Mitte-City-Check-In-AUA-Austrian-Air-Berlin-Fahrgäste-Passagiere_1-Foto-PA-Austrian-Wings-Media-Crew

Wien Mitte สถานีศูนย์กลางการขนส่งของกรุงเวียนนา ที่มีทั้งสถานีรถไฟ, รถไฟใต้ดิน, รถไฟ S Bahn และยังเป็นห้างสรรพสินค้าด้วยค่ะ (อย่าช้อปปิ้งเพลินจนตกรถไฟนะคะ)


วัน-เวลาที่ให้บริการ:

สนามบินกรุงเวียนนา – Wien Mitte

วิ่งทุกวัน 6:09-11:39 รถไฟออกทุก 30 นาที

Wien Mitte – สนามบินกรุงเวียนนา

วิ่งทุกวัน 5:36-11:06 รถไฟออกทุก 30 นาที

ราคา:
เที่ยวเดียว: 11€ ไป-กลับ: 17€ – ส่วนลด สามารถใช้ได้กับเวียนนาการ์ด
สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 14 ปี และผู้พิการที่ใช้รถเข็นวีลแชร์ เดินทางฟรี

ซื้อตั๋วที่:
ซื้อออนไลน์จาก http://www.cityairporttrain.com
ซื้อจากเครื่องขายตั๋วที่สถานี CAT Wien Mitte
หรือซื้อจาก เคาท์เตอร์ข้อมูลการท่องเที่ยว ที่สนามบินหรือที่สถานี CAT Wien Mitte

เข้าเมืองเวียนนาด้วยรถบัส Vienna Airport Line

neoplan-cityliner-vienna-airport-linesoebb-79082

รถบัสเส้นสนามบินกรุงเวียนนา จะเดินทางโดยตรงไปยัง กรุงเวียนนา  มี 3 สายด้วยกัน คือ

1. เส้น Wien Morzinplatz/Schwedenplatz (สามารถต่อรถที่ U1, U4)  วิ่งตรงจากสนามบิน โดยไม่มีจอดหยุดตามสถานีไปยัง Schwedenplatz  (ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที)

สนามบินกรุงเวียนนา – Morzinplatz/Schwedenplatz (คลิ๊กดูตารางเดินรถ)

วิ่งทุกวัน 4.50-0.20 น. รถไฟออกทุก 30 นาที 

Morzinplatz/Schwedenplatz – สนามบินกรุงเวียนนา

วิ่งทุกวัน 4.00 – 23.30 น. รถไฟออกทุก 30 นาที

2. เส้น Wien Westbahnhof (Europaplatz) (สามารถต่อรถที่ U3, U6) สายนี้จะจอดที่ ป้าย Volkstheater, ป้าย Rathaus และ ป้าย Schottentor (ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที)

สนามบินกรุงเวียนนา – Morzinplatz/Schwedenplatz (คลิ๊กดูตารางเดินรถ)

วิ่งทุกวัน 06.00 – 00.30 น. รถไฟออกทุก 30 นาที

Morzinplatz/Schwedenplatz – Vienna Airport

วิ่งทุกวัน 06.00 – 00.30 น. รถไฟออกทุก 30 นาที

0x5219F563DE4ACCB901279F905E3E7344
รถบัสจะจอดตรงหน้าเทอร์มินอลเลยค่ะ (สถานีรถอยู่ตรงรูปรถบัส)

ราคา:เที่ยวเดียว: 8€ (ใช้เวียนนาการ์ดลดเหลือ 7€)
สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 6-15 ปี ราคา €4 เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปีและผู้พิการที่ใช้รถเข็นวีลแชร์ เดินทางฟรี

ซื้อตั๋วที่: คนขับรถบัสได้โดยตรงตอนขึ้นรถได้เลยค่ะ

Coffee time: Ebel Cafe Prague


หลังจากเดินดูตึกสวยๆ ในกรุงปราก อ้อมชวนให้มานั่งพักขา จิบกาแฟชิลล์ ที่คาเฟ่เล็กๆ แต่กาแฟและเค้กอร่อยเลิศ ใกล้สะพานชาร์ลและจตุรัส Old Town ชื่อ Cafe Ebel เพราะตั้งแต่เปิดประตูคาเฟ่เข้าไปเราก็ได้กลิ่นหอมของกาแฟอบอวลไปทั่วทั้งร้าน และเพราะเป็นค่าเฟ่เล็กๆ ดังนั้นบรรยากาศในร้านจึงอบอุ่น พนักงานเป็นกันเอง เหมือนเราแวะมานั่งเล่นในบ้านคนพื้นเมือง ที่นี่เค้ามีกาแฟเราให้เลือกมากมายจนแทบจะเลือกไม่ถูกว่าจะสั่งอะไร หรือจะสั่งชามาจิบเพื่ออบอุ่นร่างกายในวันอากาศหนาวก็ได้เหมือนกัน ส่วนของหวานที่นี่ก็จะเป็นขนมอบแบบโฮมเมดล้วนๆ รวมถึงคนที่แพ้กลูเต้นก็ไม่ต่องห่วง เพราะเค้ามีเค้กแบบกลูเต้นฟรีด้วย หรือถ้าใครจะฝากท้องที่นี่ เค้าก็มีเมนูอาหารเช้าและอาหารกลางวันง่ายๆ อย่าง ซุป เบเกล แซนวิชและครัวซองต์ให้รองท้องได้ด้วยค่ะ รับประกันว่าคนรักชา กาแฟไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

P.S. Ebel Cafe ในกรุงปรากมี 2 ร้าน

ร้านแรกเล็กมาก ขายกาแฟอย่างเดียว เป็นร้านเน้น take away แต่ก็มี 2 โต๊ะเล็กๆ ให้นั่งดื่มที่ร้านได้ อยู่บนถนน Kaprova 11, Prague 1

ร้านที่ 2 (แนะนำ) เป็นแบบคาเฟ่ที่มีของหวานด้วย อยู่บนถนน Retezova 9, Prague 1

Welcome to my blog (^_^)


สวัสดีและยินดีต้อนรับสู่บล็อกของอ้อมค่ะ 

ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ชื่ออ้อมค่ะ จิริสุดา แจ่มดวง เกิดปี 2522 ค่ะ เป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ที่เช็คมาตั้งแต่ปี 2006 ค่ะ อ้อมจัดทำบล็อกนี้ขึ้นเพื่อแบ่งปันสถานที่สวยงามในประเทศเชคและสถานที่ในยุโรปที่อ้อมได้ไปเยี่ยมเยือนมา หวังว่าบล็อกของอ้อมจะเป็นประโยชน์กับทุกคน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการเดินทางท่องเที่ยวของทุกคนนะคะ ตอนนี้อ้อมมีความสุขกับการทำงานที่ได้ท่องเที่ยวไปในเมืองน่ารักโรแมนติกในยุโรปในโซนยุโรปตะวันออก ถ้าใครมองหาคนไทยที่อาศัยอยู่ในยุโรปพาเที่ยวแบบเป็นกันเอง ยินดีต้อนรับนะคะ (^_^) ดูรายละเอียดทริปได้ที่เว็บไซต์ http://www.europeforthaitour.com หรือติดตามข้อมูลได้ทาง https://www.facebook.com/europeforthai/ ค่ะ